วิธีใส่เสื้อชูชีพแต่ละแบบให้ปลอดภัย เสื้อแบบไหนใส่ยังไงให้ปกป้องชีวิตเรา

Key Takeaways:

  • นิยามของเสื้อชูชีพ คือ เสื้อเซฟตี้ที่มีหน้าที่พยุงตัวผู้ที่สวมใส่เสื้อชูชีพให้ลอยตัวอยู่ในน้ำโดยที่ปากและจมูกต้องอยู่เหนือน้ำ โดยจะต้องช่วยพยุงตัวไว้ได้แม้ในกระทั่งเวลาที่ผู้สวมใส่หมดสติ การสวมใส่เสื้อชูชีพทุกครั้งที่ทำกิจกรรมทางน้ำจะเป็นการลดความเสี่ยงในการจมน้ำไม่ว่าจะกับผู้ที่ว่ายน้ำเป็นหรือไม่เป็นก็ตาม
  • ปัจจุบันเสื้อชูชีพมีหลายแบบให้เลือกใช้ เพื่อความปลอดภัยยิ่งขึ้นผู้ใช้ควรรู้จักวิธีใช้เสื้อชูชีพแต่ละประเภทให้ถูกต้อง เพื่อที่จะได้ใช้เสื้อชูชีพอย่างมีประสิทธิภาพ

ในการทำกิจกรรมทางน้ำ หรือการทำงานที่ต้องเกี่ยวข้องกับการลงน้ำ การสวมใส่เสื้อชูชีพคือการเซฟความปลอดภัยที่ถูกต้อง ซึ่งในปัจจุบันก็มีเสื้อชูชีพหลายประเภทให้เลือกใช้ตามความเหมาะสม แต่สิ่งที่สำคัญคือผู้ใช้ต้องรู้วิธีการใส่เสื้อชูชีพแต่ละแบบอย่างถูกต้องด้วย ซึ่งวันนี้ otintertrade มีคำแนะนำดี ๆ เกี่ยวกับวิธีการเลือก และวิธีใช้เสื้อชูชีพอย่างถูกต้องมาฝาก

ประเภทและการใช้งานของเสื้อชูชีพแต่ละประเภท

ประเภทของเสื้อชูชีพในปัจจุบันมีความหลากหลายตามลักษณะการใช้งาน โดยจะแบ่งเป็น

เสื้อชูชีพแบบมาตรฐาน (Lifejacket) :

เสื้อชูชีพที่ออกแบบมาสำหรับการช่วยชีวิตเป็นหลัก เพราะการออกแบบที่มีปกหรือแผงคอจะช่วยให้สามารถพลิกตัวผู้สวมใส่ให้หน้าและปากลอยขึ้นเหนือน้ำได้แม้ว่าจะหมดสติ โดยส่วนใหญ่แล้วเสื้อชนิดนี้จะใช้ในเรือพาณิชย์ เรือเดินทะเล หรือการล่องเรือระยะไกล เพราะจะต้องผ่านพื้นที่ที่อาจมีคลื่นลมแรง เขตน้ำลึก พื้นที่ห่างไกลชายฝั่ง ถ้าหากเกิดอุบัติเหตุทางน้ำ ถ้าใส่เสื้อชูชีพแบบมีแผงคอและได้มาตรฐานก็สามารถช่วยให้ปลอดภัยและมีโอกาสรอดมากยิ่งขึ้น

เสื้อชูชีพแบบพองลม (Inflatable Lifejackets) :

เป็นเสื้อชูชีพที่เหมาะกับกิจกรรมที่ต้องการความคล่องตัวสูง สวมใส่สบายกว่าทุกแบบ เพราะเสื้อชนิดนี้จะคลุมเพียงแค่ช่วงคอเท่านั้นในขณะไม่ได้พองลม แต่การใช้งานเสื้อชนิดนี้ต้องคอยตรวจสอบสภาพอยู่อย่างสม่ำเสมอ เพราะต้องมีการเปลี่ยนอะไหล่ตามรอบแม้ว่าจะไม่ได้ใช้งานก็ตาม นอกจากนั้นราคาของเสื้อชูชีพแบบพองลมยังมีราคาที่สูงกว่าชนิดอื่นมาก

สำหรับเสื้อชูชีพแบบพองลมจะมีให้เลือกหลายแบบ ไม่ว่าจะเป็นเสื้อชูชีพที่มีหลอดบรรจุก๊าซอยู่ภายในเสื้อ ซึ่งเสื้อแบบนี้จะพองลมได้ทันทีเมื่อสัมผัสน้ำ เสื้อชูชีพพองลมแบบมีหลอดเป่าให้ผู้ใช้เป่าเองเพื่อให้เสื้อพองตัว และ เสื้อชูชีพพองลมแบบกระตุก โดยส่วนใหญ่แล้วเสื้อชูชีพแบบนี้จะใช้บนเครื่องบินหรือเรือเดินทะเล เพราะจัดเก็บได้ในพื้นที่เล็ก ๆ ใช้งานได้ง่าย และมีความคล่องตัวในการสวมใส่ ใช้เมื่อมีเหตุฉุกเฉิน แต่จะไม่เหมาะกับการใช้งานในแหล่งน้ำที่ไหลเชี่ยวรุนแรง

อีกข้อเท็จจริงที่ทุกคนควรทำความเข้าใจคือ เสื้อพยุงตัวไม่ใช่เสื้อชูชีพ แต่จะช่วยให้ผู้สวมใส่พยุงตัวอยู่ในน้ำได้ง่ายขึ้น โดยเสื้อชนิดนี้จะไม่สามารถพลิกตัวให้กับผู้สวมใส่ได้หากหมดสติ แต่จะแลกมากับความคล่องตัวและการใช้งานที่หลากหลายกว่า เสื้อพยุงตัวสามารถใช้ทำกิจกรรมทางน้ำได้หลายประเภทไม่ว่าจะเป็น พายเรือคายัค ซับบอร์ด เล่นเรือใบ เจ็ทสกี ดำน้ำตื้น และกิจกรรมอื่น ๆ ที่สามารถได้รับความช่วยเหลือได้รวดเร็ว แต่ผู้ใส่ควรมีทักษะว่ายน้ำเพื่อช่วยพยุงตัวหรือตีขาให้สมดุลเมื่ออยู่ในน้ำก่อนที่จะได้รับความช่วยเหลือนั่นเอง

วิธีใส่เสื้อชูชีพที่ถูกต้อง

วิธีใส่เสื้อชูชีพให้ปลอดภัย ให้ทำตามขั้นตอนดังนี้

  1. วิธีใส่ชูชีพที่ถูกต้องคือ เลือกใส่เสื้อชูชีพที่พอดีกับขนาดตัวผู้ใส่ ไม่ควรใส่ขนาดใหญ่หรือเล็กเกินไป
  2. ติดตัวล็อกหรือสายรัดเสื้อให้ครบทุกจุด
  3. ใส่ตัวรั้งขาให้เรียบร้อย (ตัวรั้งขาเรียกอีกอย่างว่า “ครีบปลา”) โดยวิธีใส่ชูชีพจะต้องเอาสายลอดใต้ระหว่างขาแล้วมาล็อกด้านหน้า เพราะหากไม่ใส่จะทำให้เสื้อชูชีพลอยขึ้น และอาจหลุดออกจากตัวเราได้
  4. ปรับสายให้แน่นพอดี ไม่หลวมหรือไม่รัดจนเกินไป
  5. เมื่อปรับสายต่าง ๆ แล้วเราจะต้องรู้สึกว่ามีน้ำหนักถูกกดลงบริเวณไหล่ หรือบ่า
  6. เก็บปลายสายให้เรียบร้อยแนบกับลำตัวเรา อย่าปล่อยให้ยาวเกะกะ เพราะอาจจะไปพันหรือเกี่ยวกับสิ่งรอบตัวได้ ซึ่งจะทำให้เกิดอันตราย
  7. เมื่อใส่เสื้อชูชีพเรียบร้อยแล้ว อีกวิธีใส่เสื้อชูชีพให้ปลอดภัยคือ ต้องเช็กนกหวีดทุกครั้ง โดยปกติเสื้อชูชีพทุกตัวจะมีนกหวีดอยู่ตรงบริเวณหน้าอกซ้าย หรือ กระเป๋าเสื้อชูชีพ มีไว้สำหรับเกิดเหตุฉุกเฉิน กรณีต้องการร้องเรียกขอความช่วยเหลือหรือต้องการส่งสัญญาณบางอย่างนั่นเอง

ข้อดีของการใส่เสื้อชูชีพถูกวิธี

  1. ช่วยลดการสูญเสียจากอุบัติเหตุทางน้ำได้ การทำกิจกรรมหรือทำงานที่เกี่ยวข้องกับน้ำ การใส่เสื้อชูชีพจะช่วยเซฟความปลอดภัยได้มาก ลดความเสี่ยงในการจมน้ำได้
  2. หากรู้จักวิธีใช้ชูชีพอย่างถูกวิธี ถ้าตกน้ำจะสามารถพลิกตัวให้หงายหน้าพ้นน้ำได้ มีแรงลอยตัวสูง ใช้ได้ทั้งในน้ำทะเล น้ำเชี่ยว น้ำไหล
  3. เสื้อชูชีพที่ได้มาตรฐานจะช่วยให้ผู้ใส่ลอยน้ำได้นาน และยังมีอุปกรณ์ในการขอความช่วยเหลือ เช่น นกหวีด เพื่อใช้ในการส่งสัญญาณเพื่อขอความช่วยเหลือได้อีกด้วย

วิธีใส่เสื้อชูชีพที่ควรหลีกเลี่ยง และผลที่เกิดจากการใส่เสื้อชูชีพผิดวิธี

  1. ไม่ควรเลือกเสื้อชูชีพที่ขนาดไม่พอดีตัว ไม่ว่าจะใหญ่หรือเล็กเกินไปก็ตาม
  2. ไม่ควรใส่เสื้อชูชีพแต่ไม่ใส่ตัวล็อก และสายรั้งใต้ขา เพราะหากเกิดเหตุฉุกเฉิน น้ำอาจจะดันเสื้อชูชีพหลุด และทำให้ผู้สวมใส่จมน้ำได้
  3. ไม่ควรเลือกเสื้อชูชีพที่ไม่ได้มาตรฐาน ไม่ผ่านการรับรอง เพราะหากวัสดุที่ใช้ในการผลิตและกระบวนการผลิตไม่ได้มาตรฐาน เสื้อชูชีพที่ไม่มีคุณภาพจะไม่สามารถช่วยชีวิตผู้สวมใส่ได้ และในทางกลับกันอาจจะยิ่งทำให้จมน้ำอีกด้วย

ก่อนทำกิจกรรมทางน้ำเราควรศึกษาวิธีใส่เสื้อชูชีพที่ถูกต้อง เพื่อให้เกิดความปลอดภัยตลอดระยะเวลาทำกิจกรรมหรือทำงานที่เกี่ยวข้องกับน้ำ

เสื้อชูชีพเพื่อใช้ในอุตสาหกรรมต่างกับเสื้อชูชีพทั่วไปอย่างไร

  • เสื้อชูชีพที่ใช้ในอุตสาหกรรม เช่น อุตสาหกรรมเรือเดินสมุทร หรือการเดินทางทางน้ำ เสื้อชูชีพสำหรับกิจกรรมเหล่านี้จะต้องมอบความปลอดภัยให้กับผู้สวมใส่ เพราะถ้าเกิดอุบัติเหตุ หรือมีการตกน้ำอาจเป็นอันตรายสูง เสี่ยงต่อการเสียชีวิต นอกจากนั้นแล้วพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นทะเลเปิดนอกชายฝั่ง ด้วยสิ่งแวดล้อมแล้วจะต้องเจอกับสภาพอากาศที่ไม่เป็นใจ มีคลื่นลมแรง โดยเสื้อชูชีพที่เหมาะกิจกรรมลักษณะนี้ต้องเป็นเสื้อชูชีพแบบมาตรฐานที่มีแรงลอยตัว 150 นิวตันขึ้นไป เพราะช่วยให้ผู้สวมใส่ลอยตัวได้ง่ายและสู้กลับคลื่นในทะเลได้ในระดับหนึ่ง นอกจากนั้นยังช่วยพลิกตัวให้ผู้สวมใส่ได้แม้หมดสติในน้ำ เป็นการลดความเสี่ยงในการเสียชีวิตได้
  • เสื้อชูชีพสำหรับกิจกรรมทั่วไป เช่น การเล่นน้ำชายฝั่ง หรือดำน้ำตื้น ๆ เสื้อชูชีพที่เหมาะกับกิจกรรมนี้ควรแรงลอยตัว 100 นิวตัน โดยจะเป็นแรงลอยตัวที่นิยมใช้มากที่สุด ใช้ได้หลากหลายกิจกรรม เหมาะสำหรับทะเลเปิดภายในประเทศ มีคลื่นสงบ และตัวเสื้อได้รับการออกแบบให้สามารถยกหน้าของผู้สวมให้พ้นน้ำได้

เพื่อการทำกิจกรรมทางน้ำที่เซฟตี้ ปลอดภัยไม่ว่าจะเป็นกิจกรรมน้ำลึกหรือน้ำตื้น ว่ายน้ำ และการกู้ภัย ทาง OT Intertrade คือผู้ให้บริการจัดจำหน่ายเสื้อชูชีพที่ผลิตจากวัสดุที่มีคุณภาพ ผ่านกระบวนการผลิตที่ได้มาตรฐานสากลและเป็นหนึ่งในรผู้ผลิตเสื้อชูชีพที่ได้รับการรับรองรับรองจากกรมเจ้าท่า ซึ่งมีมาตรฐานเสื้อชูชีพ 10 ข้อ โดยมีให้เลือกหลากหลายสี และหลายขนาด ให้เลือกสำหรับผู้ที่ต้องการใช้งานทุกเพศทุกวัย สามารถรองรับกับผู้สวมใส่ที่มีน้ำหนักตัวตั้งแต่ 30 – 120 กิโลกรัม หากสนใจสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือสั่งซื้อได้ที่เว็บไซต์ www.otintertrade.com และทุกช่องทางออนไลน์

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่