ป้ายจราจรมีกี่ประเภท แต่ละประเภทแตกต่างกันยังไงบ้าง
Key Takeaways
- ป้ายจราจร คือ อุปกรณ์ที่ช่วยเพิ่มความปลอดภัยบนท้องถนน ด้วยการควบคุม แนะนำ และแจ้งเตือน เพื่อให้ผู้ขับขี่ปฏิบัติตามได้อย่างถูกต้องและเหมาะสม เพื่อลดอุบัติเหตุและการสูญเสียที่อาจจะเกิดขึ้นได้
- ป้ายจราจรมีด้วยกันหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็น ป้ายบังคับ ป้ายเตือน และป้ายแนะนำ ซึ่งป้ายแต่ละประเภทมีหน้าที่ในการบอกข้อมูลที่แตกต่างกันออกไป แถมยังมีขนาดป้าย สีสัน และตำแหน่งในการติดตั้งที่ไม่เหมือนกันอีกด้วย
ป้ายจราจรตามท้องถนนมีสีสัน สัญลักษณ์ และข้อความ ต่าง ๆ มากมาย ซึ่งเมื่อก่อนที่เป็นแค่ผู้โดยสารนั่งอยู่เบาะหลังก็ไม่ได้สนใจหรือใส่ใจอะไรมากมาย แต่ตอนนี้เริ่มมีความคิดอยากจะขับรถได้แบบคนอื่นเขาบ้าง เลยจำเป็นต้องมาทำความรู้จักกับป้ายจราจรพวกนี้ วันนี้ OT Intertrade เลยจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับป้ายจราจรว่ามีกี่ประเภทและแต่ละประเภทแตกต่างกันยังไงบ้าง
ป้ายจราจร คืออะไร?
ภาพ: ป้ายจราจร
“ ตัวช่วยจัดระเบียบบนท้องถนน ”
ไม่ว่าจะไปไหนมาไหนก็ต้องเจอป้ายจราจรตลอดเวลา เพราะป้ายจราจร คือ หนึ่งในอุปกรณ์ความปลอดภัยที่สำคัญมาก ๆ มีเอาไว้เพื่อควบคุม แนะนำ และเตือน ยานพาหนะทุกประเภทที่อยู่บนท้องถนน ซึ่งเป็นส่วนสำคัญอย่างมากในการจัดระเบียบทุกสิ่งทุกอย่างบนท้องถนน เพื่อให้ทุกคนขับขี่รถได้อย่างปลอดภัย และถึงจุดหมายได้ถูกต้องและรวดเร็วมากขึ้นนั่นเอง
ซึ่งการติดตั้งป้ายจราจรจะต้องคำนึงถึงอะไรหลาย ๆอย่าง ไม่ว่าจะเป็น มาตรฐานของตัวป้าย จำนวนช่องจราจร ความกว้างของผิวถนน และความจำเป็น เพื่อให้ป้ายจราจรสามารถทำงานได้อย่างเหมาะสมและมีประสิทธิภาพมากที่สุด
ประเภทของป้ายจราจร
เวลาที่เรานั่งรถไปตามสถานที่ต่าง ๆ ไม่ว่าจะส่วนไหนในประเทศก็ตาม ก็มักจะเจอกับป้ายจราจรสีต่าง ๆ เต็มไปหมด และนอกจากสีที่ต่างกัน ก็ยังมีรูปทรง ดีไซน์ ข้อความ และสัญลักษณ์ในป้ายที่ไม่เหมือนกันอีกด้วย หลายคนก็คงสงสัยและอยากรู้ว่าจริง ๆ แล้วป้ายจราจรมีกี่ประเภท ก็ตามมาดูกันเลย
1. ป้ายบังคับ
ภาพ: ป้ายบังคับ
เป็นป้ายจราจรที่เราเจอกันอยู่บ่อย ๆ ซึ่งหน้าที่ของป้ายนี้ก็ตามชื่อเลย คือ เอาไว้แจ้งให้ผู้ขับขี่บนท้องถนนปฏิบัติตามสิ่งที่แสดงอยู่บนป้าย ไม่ว่าจะเป็นข้อความ เครื่องหมาย หรือสัญลักษณ์ใด ๆ ก็ตามที่อยู่บนป้าย ซึ่งมีผลบังคับตามกฎหมาย และหากไม่ยอมทำตามก็จะโดนค่าปรับได้ ซึ่งสามารถแยกย่อยได้ตามนี้
- ป้ายบังคับประเภทกำหนดสิทธิ์ (Priority Signs) เอาไว้บอกผู้ขับขี่ให้รู้ลำดับก่อนหลัง โดยจะอยู่บริเวณทางแยกและทางแคบ เช่น ป้ายให้รถสวนทางมาก่อนและป้ายหยุด เป็นต้น
- ป้ายบังคับประเภทห้ามหรือจำกัดสิทธิ์ (Prohibitory Signs) เอาไว้บอกผู้ขับขี่ให้รู้ถึงการห้ามและการจำกัดแบบต่าง ๆ เช่น ห้ามเลี้ยวขวาและห้ามแซง เป็นต้น
- ป้ายบังคับประเภทคำสั่ง (Mandatory Signs) เอาไว้บอกผู้ขับขี่ให้รู้ว่าต้องทำอย่างไร เมื่ออยู่ในจุด ๆ นั้น เช่น ให้เลี้ยวซ้ายและให้เดินรถทางเดียว เป็นต้น
2. ป้ายเตือน
ภาพ: ป้ายเตือน
เป็นป้ายที่เจอบ่อยไม่น้อยไปกว่าป้ายบังคับเลย โดยส่วนมากจะเป็นป้ายทรงข้าวหลามตัดสีเหลือง ซึ่งเอาไว้บอกให้ผู้ขับขี่รู้ว่าในเส้นทางนั้นมีการเปลี่ยนแปลง อย่างการทำถนน ที่อาจจะเสี่ยงให้เกิดอุบัติเหตุได้ เพื่อให้ผู้ขับขี่ขับรถอย่างระมัดระวังมากขึ้น อย่างการลดความเร็วลง ซึ่งสามารถแยกย่อยได้ตามนี้
- ป้ายเตือนทางโค้ง เอาไว้เตือนผู้ขับขี่ให้รู้ว่าข้างหน้ามีทางโค้งแบบต่าง ๆ เช่น ทางโค้งซ้ายหรือทางโค้งรัศมีแคบ เป็นต้น
- ป้ายเตือนทางแยก เอาไว้เตือนผู้ขับขี่ให้รู้ว่าด้านหน้าจะมีทางแยกแบบต่าง ๆ เช่น ทางเอกตัดกันรูปตัววายหรือทางโทแยกทางเอก เป็นต้น
- ป้ายเตือนสถานการณ์ เอาไว้เตือนผู้ขับขี่ให้รู้ว่าข้างหน้าจะมีสิ่งที่ก่อให้เกิดอันตรายได้ เช่น สะพานแคบหรือขึ้นทางลาดชัน เป็นต้น
- ป้ายเตือนแนวทาง เอาไว้เตือนผู้ขับขี่ให้รู้แนวทางการเดินรถหรือสิ่งกีดขวางต่าง ๆ
- ป้ายเตือนงานก่อสร้าง เอาไว้เตือนผู้ขับขี่ให้รู้ว่าข้างหน้ามีการก่อสร้าง เช่น ทางเบี่ยงหรือเครื่องจักรกำลังทำงาน เป็นต้น
3. ป้ายแนะนำ
ภาพ: ป้ายแนะนำ
เป็นประเภทป้ายจราจรที่มีความหลากหลายสุด ๆ มีเอาไว้เพื่อให้ผู้ขับขี่รับรู้ถึงข้อมูลต่าง ๆ ที่จำเป็นต่อการเดินทาง ซึ่งส่วนมากจะติดตั้งเอาไว้เป็นระยะ ๆ เพื่อให้ผู้ขับขี่เดินทางถึงจุดหมายได้อย่างถูกต้องและปลอดภัย ซึ่งสามารถแยกย่อยได้ตามนี้
- ป้ายแนะนำทั่วไปแขวนสูง เป็นป้ายที่พบเห็นได้ตามถนนใหญ่หรือบริเวณทางหลวงที่มีช่องจราจร 2 ช่องขึ้นไป ซึ่งส่วนมากจะมีสีเขียว สีขาว หรือสีฟ้า และจะเป็นป้ายขนาดกลาง เช่น ป้ายบอกจุดกลับรถหรือป้ายบอกทางเข้า-ออก เป็นต้น
- ป้ายแนะนำบนทางหลวงพิเศษ เป็นป้ายแนะนำที่มีความสำคัญและจำเป็น เพื่อเอาไว้บอกผู้ขับขี่ให้เลือกใช้ช่องจราจรได้ถูกต้อง โดยจะเป็นป้ายขนาดใหญ่เพื่อให้มองเห็นได้อย่างชัดเจน เพราะผู้ขับขี่มักใช้ความเร็วค่อนข้างสูงเมื่ออยู่บนทางหลวงพิเศษ เช่น ป้ายยินดีต้อนรับสู่จังหวัดนั้น ๆ หรือป้ายบอกจุดหมายต่าง ๆ เป็นต้น
ป้ายจราจรคุณภาพดีและได้มาตรฐานจาก OT Intertrade
สำหรับใครที่กำลังอยากได้ป้ายจราจรที่ได้มาตรฐาน ผลิตจากวัสดุคุณภาพดี ใช้งานได้อย่างยาวนาน ต้องป้ายจราจรจาก OT Intertrade
- ช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่ให้กับสถานที่นั้น ๆ
- สามารถลดอุบัติเหตุและความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นได้
- สร้างความเข้าใจ ช่วยให้เดินทางได้อย่างสะดวกมากขึ้น
ป้ายจราจร มีความสำคัญยังไง?
ภาพ: ป้ายจราจร
“ ช่วยลดอุบัตเหตุลงได้เยอะ ”
แน่นอนว่าป้ายจราจรเป็นสิ่งที่มีความสำคัญอย่างมากในการใช้ถนนหนทาง ไม่ว่าจะในถนนเล็ก ๆ ที่ใช้สัญจรกันในชุมชนหรือหมู่บ้านต่าง ๆ ไปจนถึงถนนขนาดใหญ่อย่างทางหลวงพิเศษที่จะพาเราไปยังจังหวัดอื่น ๆ ก็ล้วนต้องใช้ป้ายจราจร เพื่อสร้างความเรียบร้อย ความปลอดภัย และความเข้าใจร่วมกันระหว่างผู้ขับขี่ โดยป้ายจราจรแต่ละประเภทนั้นมีประโยชน์ ดังนี้
- สร้างวินัยให้ผู้ขับขี่ อย่างการไม่จอดรถในที่ห้ามจอด การกลับรถในจุดที่ควรกลับ ที่ถึงแม้จะเป็นเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็ช่วยสร้างระเบียบในสังคมได้ ซึ่งหากปฏิบัติตามป้ายจราจรไปเรื่อย ๆ ก็จะเป็นการสร้างวินัยได้เป็นอย่างดี
- ลดอุบัติเหตุบนท้องถนน อย่างป้ายเตือนว่าข้างหน้ามีการก่อสร้าง ก็จะทำให้ผู้ขับขี่ชะลอความเร็วลง รวมถึงป้ายเตือนทางเอกตัดกัน ก็จะช่วยให้ผู้ขับขี่ขับรถระมัดระวังมากขึ้น ซึ่งส่งผลโดยตรงกับการช่วยลดอุบัติเหตุต่าง ๆ ที่อาจจะนำมาซึ่งการสูญเสียทั้งร่างกายและทรัพย์สิน
เกร็ดความรู้เรื่องวัสดุของป้ายจราจร
วัสดุสุดฮิตที่นิยมเอามาทำป้ายจราจร มีอะไรบ้าง?
ภาพ: ป้ายจราจร
ป้ายจราจรที่ดีนอกจากขนาดและสีที่ต้องได้มาตรฐานแล้ว วัสดุในการทำก็สำคัญไม่แพ้กัน เนื่องจากป้ายจราจรประเภทต่าง ๆ จะต้องถูกติดตั้งอยู่กลางถนน ที่ต้องเจอทั้งฝนทั้งแดด หากผลิตจากวัสดุที่ไม่ได้คุณภาพก็จะทำให้พังและเสียหายได้ง่าย ซึ่งเป็นเรื่องที่สิ้นเปลืองงบประมาณโดยใช่เหตุ ดังนั้นก็ตามมาดูกันดีกว่าว่าวัสดุอะไรบ้างที่เหมาะกับการเอามาทำเป็นป้ายจราจร
- อลูมิเนียม เป็นวัสดุตามมาตรฐานของกรมทางหลวง โดยจะต้องมีความหนาขั้นต่ำ 1-2 มม. ตามขนาดของป้ายจราจรนั้น ๆ ซึ่งเป็นวัสดุที่มีน้ำหนักเบาและค่อนข้างเหนียว เลยทำให้แตกหักได้ยาก แถมยังทนทานต่อการกัดกร่อนและสภาพแวดล้อมภายนอกได้ดีอีกด้วย
- เหล็กซิงค์ เป็นแผ่นเหล็กที่ถูกเคลือบด้วยสังกะสี ซึ่งเป็นวัสดุตามมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม โดยจะต้องมีความหนาขั้นต่ำ 1 มม. สามารถทนทานต่อการเกิดสนิมได้ในช่วงแรก ๆ เพราะหากเวลาผ่านไปนาน ๆ แล้วสังกะสีที่เคลือบไว้หลุดออก ก็สามารถเกิดสนิมได้เช่นกัน
- อะคริลิกหรือพลาสวูด เป็นวัสดุที่นิยมเอามาทำป้ายจราจรตามห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ รวมถึงหน่วยงานเอกชนต่าง ๆ เนื่องจากเป็นวัสดุที่มีความสวยงามมากกว่า 2 แบบแรก แต่จะเหมาะกับการใช้งานในที่ร่มมากกว่ากลางแดด
สติกเกอร์สะท้อนแสงสุดฮิตบนป้ายจราจร มีอะไรบ้าง?
ภาพ: ป้ายจราจร
- Commercial Grade เป็นสารเคมีเกรดอุตสาหกรรม มักเอาไว้ใช้ในการทำป้ายที่อยู่ตามโรงงานอุตสาหกรรม ซึ่งสามารถสะท้อนแสงได้ราว ๆ ปีเดียวเท่านั้น
- Engineer Grade เป็นแผ่นสะท้อนแสงที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เนื่องจากสามารถสะท้อนแสงได้กำลังดี ไม่มากหรือน้อยจนเกินไป และมีอายุการใช้งานขั้นต่ำราว ๆ 5 ปีขึ้นไป
- Diamond Grade เป็นแผ่นสะท้อนแสงที่สามารถสะท้อนแสงได้ดีมาก ๆ ทำให้มองเห็นได้อย่างชัดเจน โดยเฉพาะในตอนกลางวัน แถมมีอายุการใช้งานยาวนานถึง 10 ปี แต่ไม่ค่อยเป็นที่นิยมเนื่องจากสามารถสะท้อนแสงได้เยอะเกิน จนอาจทำให้มองเห็นได้ไม่ชัดนั่นเอง
- High Intensity Grade เป็นแผ่นสะท้อนแสงที่ฮิตมากในยุคนี้ เนื่องจากเป็นการสะท้อนแสงแบบปริซึม ที่ทำให้สามารถมองเห็นได้อย่างสบายตาทั้งในตอนกลางวันและกลางคืน
ทั้งหมดนี้ คือ เรื่องราวสำคัญ ๆ ของป้ายจราจร ที่ช่วยให้ทุกคนรู้ว่าป้ายจราจรมีกี่ประเภท และแต่ละประเภทแตกต่างกันยังไงบ้าง พร้อมแชร์ความสำคัญและประโยชน์ของป้ายจราจรที่สามารถช่วยสร้างระเบียบบนท้องถนนได้เป็นอย่างดี
และหากใครกำลังสนใจอยากซื้อป้ายจราจรหรือป้ายสัญลักษณ์คุณภาพดีราคาโดนใจ บริษัท โอที อินเตอร์เทรด ก็มีป้ายประเภทต่าง ๆ พร้อมจำหน่าย ไม่ว่าจะเป็นป้ายจราจร ป้ายงานก่อสร้าง หรือความปลอดภัย ที่ผลิตจากวัสดุที่เหมาะสม ทำให้ได้ป้ายที่แข็งแรงทนทาน
มั่นใจในคุณภาพป้ายจราจรจาก OT Intertrade ด้วยประสบการณ์กว่า 35 ปี
ลูกค้าทุกท่านมั่นใจได้ในคุณภาพสินค้าด้วยประสบการณ์กว่า 35 ปี ที่เชี่ยวชาญในด้านการผลิต นำเข้า และจัดจำหน่ายอุปกรณ์ต่าง ๆ แถมยังได้รับความไว้วางใจจากบริษัทชั้นนำมากมาย ด้วยประสบการณ์และการทำงานอย่างมืออาชีพ จึงรับรองได้ในการบริการที่ดีที่สุด
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
ช้อปป้ายสัญลักษณ์